วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

จัดทำโดย

1.ด.ญ. กุลธิดา         อ่อนใส เลขที่ 29 ม. 2/2
2.ด.ญ. นิติกาญจน์   เวินชุม   เลขที่ 35 ม.2/2
3.ด.ญ. ปิยะดา          ปิ่นขจร  เลขที่ 36 ม.2/2
4.ด.ญ.กรรณิกา         นรภาร   เลขที่ 38 ม. 2/2
5.ด.ญ. สังวรา           ภูมิรัง     เลขที่ 40 ม. 2/2

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เกษตรท้องถิ่นอำเภอนาคู(รูปภาพ)






วิธีการปลูกพริก

 
วิธีปลูกพริก
                         พริกเป็นพืชผักที่มีความสำคัญชนิดหนึ่ง  เพราะทุกครัวเรือนต่างต้องใช้พริกในการประกอบอาหาร  ซึ่งการปลูกต้นพริกทำได้หลายวิธี  ดังนั้น เคล็ดลับวิธีการปลูกพริก จึงมีความจำเป็นในการปลูกอย่างยิ่งทางนี้เมื่อก่อนเคยปลูกพริก  รดน้ำทุกวัน ปลูกเอาไว้งานหนึ่งตอนแรกปลูกง้ามงามจ้า....ต่อมาคงงามมากเกินไปเน๊าะใบมันก็เลยหงิกบ้าง เมล็ดพริกแห้งลงแห้งลง... คราวนี้หรือเฉาคาแปลงเลยตั้งแต่นั้นมา ไม่คิดปลูกพริกอีก มาปีนี้พริกแพงมากๆๆๆๆๆๆๆ  ขอบอก
เริ่มจาก เพาะเมล็ดพริกหยอดในหลุดโดยตรง หลุมละ 3 - 5 เม็ด ซึ่งวิธีนี้นิยมปลูกในแปลงขนาดใหญ่ จุดอ่อนของการปลูกวิธีนี้ คือ ต้นพริกอ่อนแออาจจะถูกมดและแมลงอื่นๆกัดกินใบ
-เพาะเมล็ดพริกให้งอกก่อนแล้วนำไปปลูกในหลุม กลบด้วยดินบางๆ สำหรับวิธีการเพาะ คือ นำเมล็ดพันธุ์ไปแช่ไว้ในน้ำ จากนั้นนำผ้าชุบน้ำหมาดๆมาห่อทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน เมล็ดก็จะงอกแล้วนำไปปลูก
                                        -เพาะเมล็ดในแปลงเพาะก่อน แปลงเพาะควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15  ปริมาณ 100 กรัม/ตารางเมตร 5-8  นิ้ว แนะควรใช้พูราดาลในการเพาะด้วย หลังจากหว่าเมล็ดแล้วประมาณ 10 วันเมื่อต้นพริกมีอายุได้ 18 วัน ให้รดด้วยน้ำผสมปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต  อัตราส่วน 1  กรัม/น้ำ 200 ซีซี.แล้วรดน้ำตามทันที หากเมล็ดไหนที่ยังไม่งอก ให้นำไปคลุกยาป้องกันกำจัดเชื้อรา  ได้แก่ ออไธไชด์ เพื่อป้องกันโรคเราควรรดด้วยไดโฟลาแทน 80 หรือ ไดเทน เอ็ม 45
ที่มา:ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง นายบุญเกิด นรภาร อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์

วิธีการปลูกมะเขือเทศ

                     ในฤดุหนาวสามารถปลูกมะเขือเทศได้ง่ายที่สุด แต่การบริโภคมะเขือเทศไม่ได้ถูกจำกัดเพียงฤดูเดียวดั้งนั้นจึงมีความพยายามปลูกมะเขือเทศนอกฤดูในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนซึ่งปัญหาที่สำคัญคือ อุณหภูมิสูงเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคม เมษายน และ พฤษภาคม ทำให้ดอกมะเขือเทศร่วง  ไปไม่ติดผลแต่เนื่องจากราคาผลผลิตใน ช่วงปลายฤดูร้อนสามารถทำได้หลายวิธี
1.ปลูกมะเขือเทศบนภูเขาสูงกว่าปกติบนถุเขาสุงจะมีอุณหภุมิตำกว่าในพื้นราบ จึงมีการปลูกมะเขือเทศนอกฤดูกันมาก เช่น ที่เชียงราย เพชรบูรณ์ เป็นต้น แต่บนภูเขาสูงมักมีปัญหาแหล่งน้ำจำกัด อาจใช้ปลูกมะเขือเทศได้ไม่ตลอดฤดูปลูก จึงต้องเลือกแหล่งที่มี น้ำสมบูรณ์จริงๆ


2. ใช้พันธุ์ทนร้อนร่วมกับการจัดการที่ดี  พันธุ์มะเขือเทศทั่วไปจะไม่สามารถถ้าอุณหภูมิกลางคืนสูงกว่า 22 องศาเซลเซียศ แต่พันธุ์ทนร้อนสามารถติดผลได้แม้ว่าอุณหภูมิกลางสูงกว่า 23 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ดีถ้าอุณหภูมิกลางสูงเกินกว่า 35 องศาเซลเซียส ก็ทำให้มะเขือพันธุ์ทนร้อนติดผลได้ยาก การปลูกมะเขือเทศในฤดูร้อนนอกจากจะใช้พันธุ์ทนร้อนแล้วจะต้องเอาใจใส่ดูแลรักษาอย่างประณีต โดยเฉพาะการให้น้ำ ทั้งนี้เมื่ออากาศร้อนและแห้งต้นมะเขือเทศต้องการน้ำมากกว่าในฤดูปลูกปกติ 2 เท่า และการระเหย น้ำจากดินเป็นนไปอย่างรวดเร็ว ดั้งนั้นจึงต้องมมีการให้น้ำบ่อยครั้งขึ้น ถ้าเป็นการให้น้ำแบบฉีดพ่นฝอยควรให้ทุกวันตอนเช้าเพื่อให้ดินและอากาศรอบๆแปลงปลูก มีความชื่นพอเพียง และเป็นการลดอุณหภูมิลงด้วย

พันธุ์
แบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ
1. พันธุ์สำหรับปลูกขายตลาดสด ซึ่งแบ่งออกได้ตามขานดผลและการใช้ควรมีลักษณะดังนี้
1.1 พันธุ์ผลโต นิยมใช้ทำสลัดและประดับจานอาหาร เช่น พันธุ์ฟลอราเดล และมาสเตอร์เบอร์ 3 เป็นต้น
มีลักษณะ ดังนี้คือ
- มีผลทรงกลมแบบแอปเปิล
- มีผลเขียว สุกแดงจัด
- มีจำนวนช่องในผลมาก
- รสดี เนื้อหนาแข็ง เปลือกไม่เหนียว
1.2 พันธุ์ลูกเล็ก นิยมใช้ประกอบอาหารพื้นบ้าน ได้แก่ พันธุ์สีดา ห้างฉัตร มีลักษณะดังนี้
-  ผลเล็ก
-  สีชมพู นิยมมากกว่าแดง
-  รสเปรี้ยว ไม่ขืน
2. พันธุ์สำหรับส่วโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ วี เอฟ 134-1-2 พี 502  พี 600 เป็นต้น ควรมีลักษระดังนี้
2.1 เป็นพันธุ์ที่สุกพร้อมกันขนาดใหญ่
2.2 ขั้วผลควรหลุดออกจากผลง่ายเมื่อปลิดผล
2.3 ผลสุกมีสีแดงจัดตลอดผล




การพรวนดินและกลบโคนต้น
                         เมื่อต้นกล้าตั้งตรงได้แล้วควรพรวนดินกลบโคนต้น โดยเปิดเป็นร่องระหว่างแถว เพื่อให้การให้น้ำทำได้สะดวก น้ำไม่ขัง และทำให้รากมะเขือเทศใหญ่มากขึ้น และการพรวนดินกลบโคนก็เป็นการกำจัดวัชพืชไปในตัวด้วย หลังจากพรวนดินกลบโคนครั้งแรกแล้ว หลังจากนั้นอีก 1 เดือนให้ทำการกลบโคนอีกครั้ง
การปักค้าง
                       พันธุ์ที่ทอดยอดหรือพันธุ์เลื่อยจำเป็นต้องมีการปักค้างโดยใช้ไม่หลักปักต้นก่อนระยะออกดอก โดยใช้เชือกผูกระหว่างลำต้นให้ไขว้กันเป็นเลข 8 และผูกเงื่อนกระตุกกับค้างเพื่อให้พืชเจริญเติบโตได้ดี  สะดวกต่อการดูแลรักษา ฉีดสารป้องกันแมลงได้ทั่วถึงผลไม่สัมผัสดิน ทำให้ผลสะอาดและสะดวกต่อการเก็บเกี่ยว

ที่มา:สู่สายใยเศรษฐกิจพอเพียง ต.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์

วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วิธีการปลูกข้าวโพด

              ข้าวโพดเป็นพืชเศรษฐกิจที่เกษตรกรนิยมปลูกกันมากอีกชนิดหนึ่งก็ว่าได้เนื่องจากราคาผลผลิตของข้าวโพดที่สูงและในปัจจุบันยังสามารถนำมาใช้ผลิตเอธานอลเพื่อทดแทนการนำเข้านำมัน นับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอีกชนิดหนึ่งก็ว่าได้

              ฤดูปลูกการปลูกข้าวโพด
แบ่งการปลูกเป็น 2 ช่วง
ต้นฤดูฝน นิยมปลูกกันตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงต้นเดือนมิถุนายน
ปลายฤดูฝน นิยมปลูกตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม

               ขั้นตอนในการเตรียมดินในการปลูกข้าวโพด
               เริ่มจากการ
               การปลูก
                  การปลูกมี 2 วิธีคือ
       - การปลูกโดยใช้เครื่องจักรในการช่วยปลุก
      - การปลูกโดยใช้แรงงานคน
               ระยะการปลูกระหว่างแถว 80 เวนติเมตร
               ระยะระหว่างหลุมประมาณ 25-30 เซนติเมตร
               ปลุกลึก 4-5 เซนติเมตร

                                 
               การใส่ปุ๋ย
                  การใส่ปุ๋ยควรใส่ให้ถูกสุตร ถูกกับพื้นดินและถูกเวลาจะ ช่วยเกษตรกรลดค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ยและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยให้เกษตรกรเป็นอย่างมาก  โดยนิยมแบ่งใส่ 2 ครั้งด้วยกัน
               การเก็บเกี่ยวข้าวโพด
                  ข้าวโพดแต่ละพันธุ์มีอายุเก็บเกี่ยวไม่เท่ากัน โดยทั่วไปข้าวโพดในประเทศไทยมีอายุเก็บเกี่ยวระหว่าง 100-120 วัน ซึ่งการเก็บเกี่ยวควรเก็บเมื่ข้าวโพดแก่เต็มที่  กาบหุ้มฟักแห้ง ใบแห้ง ซึ่งเมล็ดควรมีความชื่นไม่เกิน 30 %  เมื่อเก็บเกี่ยว ซึ่งการเก็บเกี่ยวอาจทำได้ทั้งใช้แรงงานคน หรือใช้เครื่องเก็บเกี่ยว
ที่มา:บ้านนาคู ต.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์